1. ฐานเก้าอี้สำนักงาน ควรเป็นเก้าอี้ที่มีฐานเป็น 5 ล้อ ผลิตจากพลาสติกหรือวัสดุอื่นก็ได้ โดยฐานล้อต้องกว้างกว่าลำตัวเรา เพื่อมั่นใจว่าเวลาผู้นั่งพิงเอนเก้าอี้จะไม่ล้มหรือหงายหลัง เก้าอี้ทำงานที่มีล้อจะช่วยการทำงานของเราสะดวกขึ้น ตัวล้อต้องมีคุณภาพสูง ทนทานไม่ทำลายพื้นผิวเกิดรอยขีดข่วน
2. เบาะนั่ง เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เบาะที่นั่งของเก้าอี้สำนักงานควรมีขนาดใหญ่พอดี นั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัด ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ใหญ่จนเกินไป เมื่อนั่งแล้วก้นและหลังต้องสามารถพิงชิดพนักพิงได้ เพื่อลดการกดทับขอบหน้าเบาะที่นั่งกับช่วงต้นขา ซึ่งเบาะที่นั่งต้องสามารถปรับขึ้น-ลงและเลื่อนหน้าเลื่อนหลังได้ สามารถเลื่อนเบาะให้ยืดหดและล็อคได้ตามความต้องการ เพราะผู้นั่งแต่ละคนมีความยาวส่วนขาบนไม่เท่ากัน
3. โครงสร้างและวัสดุ โครงสร้างและวัสดุที่ใช้หุ้มเก้าอี้สำนักงานก็มีส่วนสำคัญ โดยส่วนใหญ่โครงสร้างเก้าอี้จะเป็นพลาสติก เพราะน้ำหนักเบา ซึ่งถ้าเก้าอี้สำนักงานมีน้ำหนักเบา เวลาเรานั่งพิงเอนแล้วจะทำให้หงายหลังได้ง่าย และไม่ทนทานเท่าเก้าอี้ที่เป็นโครงเหล็ก อลูมิเนียม ซึ่งมีน้ำหนักมาก เวลาพิงเอนพนักพิงตัวผู้นั่งจะถ่ายน้ำหนักไปด้านหลัง ฐานของล้อต้องกว้างกว่าลำตัวเราเพื่อมั่นใจว่าเวลาเราพิงเอนเก้าอี้จะไม่ล้มหรือหงาย
4. เก้าอี้สำนักงานควรมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับแผ่นหลังได้ดี ความสูงของพนักพิงควรสูงระดับไหล่ และเมื่อนั่งแล้วควรมีส่วนโค้งนูนเว้าของเบาะเข้ากับส่วนหลังของผู้นั่ง ซึ่งพนักพิงหลังต้องสามารถปรับระดับขึ้น-ลงและพิงเอนได้ โดยแยกอิสระกับตัวเบาะนั่ง และล็อคองศาการพิงเอนได้ด้วย
5. ที่วางแขน เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก หลายคนอาจจะรู้สึกเกะกะ ไม่จำเป็น เพราะเอาแขนวางบนโต๊ะ ซึ่งที่วางแขนที่ดีนั้นต้องสามารถรองรับแขนได้จริงขณะนั่งใช้งานและต้องไม่เกะกะ สามารถรองรับน้ำหนักขณะนั่งทำงานได้เพื่อลดอาการเกร็งช่วงบ่าและไหล่ โดยที่วางแขนต้องสามารถปรับขึ้น-ลง , เอียง เข้า-ออก ทำมุมกางออกขณะทำงาน , เลื่อนหน้า-หลัง รองรับได้ทั้งแขน เมื่อวางแขนแขนจะไม่กางออกจนเกินไป สามารถพยุงแขนขณะนั่งทำงานโดยบ่าและไหล่ไม่เกร็ง